DUCATI 1199 PANIGALE
ขอเริ่มที่เฟรมก่อนเลยก็แล้วกัน หากเป็นนักขี่ที่มีใจรัก DUCATI จริงๆ อาจจะไม่ปลื้มมากนักกับPanigale R เพราะโครงสร้างแนวตาข่ายนั้นหายไปเกือบสิ้น Panigale R ถูกลดน้ำหนักลงด้วยการใช้เฟรมแบบใหม่ ซึ่งมองดูแล้วคล้ายๆ กับการใช้เพียงจุดเชื่อมระหว่างเครื่องยนต์มาชนกับสวิงอาร์ม ตามด้วยการประกอบส่วนต่างๆ เพราะฉะนั้นการกำหนดจุดวางเครื่องยนต์จึงสำคัญมากๆ เพราะพลาดผิดไปเพียงมิลลิเมตรเดียวก็จะเกิดความแตกต่างอย่างชัดเจน
การลดน้ำหนักของรุ่นนี้ วงล้อทั้งหน้า/หลัง มีส่วนช่วยได้มากจากการเปลี่ยนไปใช้ล้อ MARCHESINIด้านหน้าขนาด 3.50 x 17 นิ้ว จับคู่กับยาง 120/70 ZR 17 ด้านหลังขนาด 6.00 x 17 นิ้วกับยาง 200/55 ZR 17
มิติตัวรถของ Panigale R มีขนาด ความกว้าง/ยาว/สูง เท่ากับ 810/2,075/1,110 มม. ระยะห่างฐานล้อ 1,437 มม. ความสูงของเบาะนั่ง 825 มม. น้ำหนักรวมตัวรถ 165 กิโลกรัม หากเป็นน้ำหนักที่มีการเติมของเหลวชนิดพร้อมขี่จะขยับไปเป็น 189 กิโลกรัม
จุดเด่นของรถรุ่นนี้ก็คือระบบ DES (Ducati Electronic Suspension) ซึ่งเป็นการปรับตั้งที่ใช้ระบบอิเล็คทรอนิคส์ พูดง่ายๆ ก็คือ ปรับด้วยระบบไฟฟ้านั่นเอง ทั้งช็อคอับหน้าและหลังจะสามารถปรับได้ด้วยปลายนิ้ว โดยมีโหมดปรับอยู่บนแฮนด์บังคับ ช็อคอับหน้าจะเป็นเทเลสโคปิคหัวกลับ ขนาด 43 มม. จาก ÖHLINS รุ่น NIX 30 ผิวแกนช็อคอับเคลือบด้วย TiN สีทองแบบเดียวกับรถแข่ง โหมดการปรับตั้งมาแบบจัดเต็มทั้งความกระด้างแข็งและสปีดช้า/เร็ว ของจังหวะการคืนตัว ซึ่งทั้งหมดไม่ต้องใช้เครื่องมืออะไรเลยใช้เพียงนิ้วและแผงควบคุมบนแฮนด์เท่านั้นระยะการทำงาน 120 มม. ด้านหลังเป็นช็อคอับเดี่ยวที่ติดตั้งแบบใหม่โดยเยื้องมาใต้เบาะทางด้านซ้ายของตัวรถ ÖHLINS รุ่น TTX 36 ปรับตั้งได้ละเอียด หลักการทำงานแบบเดียวกับด้านหน้า เน้นอารมณ์เกาะถนน ไม่ได้เน้นความนิ่มนวลมากนักระยะการทำงาน 130 มม.
ระบบเบรคของ Panigale R ถือว่ามีประสิทธิภาพสูงที่สุดในกลุ่มรถสปอร์ต จานเบรคหน้านั้นเป็นแบบคู่ชนิดกึ่งให้ตัวได้ ขนาด 330 มม. คาลิเปอร์แบบ 4 ลูกสูบเรเดียลเมาท์ โมโนบล็อกพร้อมติดระบบ ABS เสริมประสิทธิภาพการใช้เบรคให้อีกด้วย จานเบรคหลังแบบเดี่ยวตายตัวขนาด 245 มม. คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ บวกด้วย ABS ด้านท้ายรองรับการหยุด สมรรถนะการเบรคของ Panigale R ถือว่าให้ความมั่นใจได้สูงสุด กำราบแรงม้าเฉียดๆ 200 ตัว ให้สงบนิ่งได้แค่ปลายนิ้ว โดยผลผลิตระบบเบรคเป็นของ BREMBO ทั้งหมด
ขุมกำลังเป็นเครื่องยนต์แบบ 4 จังหวะ 2 ลูกสูบ L-Twin ระบบวาล์ว Desmodromic (4 วาล์ว/สูบ)ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำและพัดลมไฟฟ้า ปริมาตรสุทธิ 1,198 ซีซี. ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก เท่ากับ 112 x 60.8 มม. กำลังอัดเครื่องยนต์ 12.5 : 1 จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดอิเล็คทรอนิคส์ สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยระบบไฟฟ้า ระบบถ่ายทอดกำลังเป็นเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ชุดคลัทช์แบบเปียกสั่งงานด้วยระบบไฮดรอลิค พร้อมระบบ DQS (Ducati Quick Shift) บวกกับระบบ DTC (Ducati Traction Control) เรียกได้ว่าทั้งป้องกันการลื่นและเปลี่ยนเกียร์ได้ง่ายและแม่นขึ้น
ขับเคลื่อนด้วยชุดโซ่และสเตอร์ มีโหมดการปรับตั้งเวลาขับขี่ 3 รูปแบบคือ Wet สำหรับสภาพถนนเปียกๆ หรือตะลุยในสายฝน Sport เอาไว้ขับขี่แบบทั่วไปซึ่งถือว่าเป็นโหมดปกติที่ใช้กันแต่ถ้าต้องการจะเล่นอะไรที่หนักขึ้นไวขึ้นก็จะปรับไปที่ Racing ระบบจะสั่งงานและประมวลผลแบบในสนามแข่ง อีกทั้งรอบเครื่องยนต์จะมีแบบจี๊ดเต็มรอบให้มันส์กันไป
แรงม้าสูงสุดคือ 195 ตัว ที่ 10,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 132 นิวตัน-เมตร ที่ 9,000 รอบ/นาที ทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 299 กม./ชม. ก็น่าจะพอนะครับ…
S
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น